รูปโจ๊กเกอร์ หลังจากภาพยนตร์ชุด The Dark Knight จบลง ทางฝั่ง DC ก็ได้ยึดความมืดหม่นเป็นบรรทัดฐานในการสร้างจักรวาลหนังฮีโร่ของตนเสมอมา แต่ดูจะไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าไหร่เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านอย่าง Marvel ทาง DC จึงตัดสินใจเปลี่ยนแผนใหม่จากการพยายามสร้างจักรวาลฮีโร่อย่างรวดเร็วมาเป็นการสร้างหนังเดี่ยวของฮีโร่แต่ละตัวแทน และรอบนี้ทาง DC ไม่ได้จำกัดอารมณ์หนังเหมือนที่ผ่านมา youtube ดู หนัง
ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็ดูดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Aquaman สีสีนฉูดฉาด จนถึง Shazam ที่ทำออกมาเป็นหนังครอบครัวก็กวาดทั้งรายได้และคำวิจารณ์ในแง่บวกไปครอง และก็ถึงเวลาที่ DC จะทำการทดลองครั้งใหม่ คือการสร้างหนังเดี่ยวให้วายร้ายสุดโด่งดังของแบทแมนอย่างโจ๊กเกอร์ในเวอร์ชันสุดหม่น และไม่แคร์เรื่องการรวมจักรวาลแต่อย่างใด สำหรับโจ๊กเกอร์เวอร์ชันนี้คือชายหนุ่มนาม Arther Fleck
นักแสดงตลกตกอับที่มีปัญหาทางจิต “หัวเราะโดยไม่สัมพันธ์กับอารมณ์” เมื่อเขาเจอการบีบคั้นทางอารมณ์จากทั้งสังคมและคนรอบข้าง จนถึงจุดๆ หนึ่ง เขาจึงกลายเป็นโจ๊กเกอร์ ตอนที่เห็นหลายคนเล่าว่าดูแล้วรู้สึกกดดัน เครียดจนหายใจไม่ออก เมื่อดูเองก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้นกัน (แต่ส่วนตัวตอนดูก็ไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างที่ว่ามาเพราะไม่ได้มีภาวะเครียดหรือมีปมอะไรในใจ) เพราะเนื้อเรื่องนั้นเล่าถึงความไม่ยุติธรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอกของเรื่อง
ซึ่งถ้ามันจะส่งผลกระทบกับผู้ชมที่มีปมในใจคล้ายๆ ตัวเอกก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้ามองให้กว้างกว่านั้นจะพบว่าหลายๆ ปัญหามันเป็นเรื่องเลวร้ายที่เกิดจากความเหลื่อมล้ำของสังคมด้วย ซึ่งหนังเองก็ได้บอกเล่าถึงประเด็นนี้เป็นระยะๆ มันคือหนังที่เล่นประเด็นเกี่ยวกับจิตวิทยาผสมการเมือง และมันดันสัมพันธ์กับสภาพสังคมและเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันซะเหลือเกิน
ตัวหนังยังเปิดให้เราได้คิดไตร่ตรองและตัดสินใจเองได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีการตัดสินว่าใครผิดใครถูก นอกจากเนื้อเรื่องแล้ว สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จสุดๆ คือการแสดงของ Joaquin Phoenix (อ่านว่า วาคีน ฟินิกส์) PG SLOT ที่แสดงได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเสียงหัวเราะปนขมขื่นและน่าสะพรึงกลัวที่เขาได้สรรค์สร้างและออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะได้เข้าชิงรางวัลสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากบทบาทนี้แน่นอน
อีกส่วนคือดนตรีประกอบที่ใช้เสียงได้ชวนอึดอัดและป่วนประสาทคนดูเหมือนไปนั่งอยู่ในจิตใจของโจ๊กเกอร์ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างรวมกัน มันเลยออกมาเป็นความบ้าคลั่งอันสวยงาม สรุปคือหนังโจ๊กเกอร์เรื่องนี้เป็นการตีโจทย์ใหม่ให้โจ๊กเกอร์มีความเป็นคนมากขึ้น เล่นกับประเด็นที่สามารถเข้าไปสะกิดปมในใจของใครหลายๆ คนได้ง่ายๆ สอดประเด็นเกี่ยวกับสภาพสังคมและการเมืองเข้าไปด้วย
ผสมผสานกับการแสดงของ Joaquin Phoenix และดนตรีประกอบทำให้โจ๊กเกอร์ตัวนี้มีชีวิตเป็นของตัวเองอย่างสมภาคภูมิ แต่ถ้าถามว่าชอบโจ๊กเกอร์เวอร์ชันไหนที่สุด ยังชอบโจ๊กเกอร์เวอร์ชัน Heath Ledger จาก The Dark Knight มากกว่า เป็นโจ๊กเกอร์เวอร์ชันที่ดูบ้าและสมกับเป็นวายร้ายอันดับหนึ่งของแบทแมน ส่วนโจ๊กเกอร์เวอร์ชันนี้ดูเป็นโจ๊กเกอร์ที่เต็มไปด้วยความปวกเปียกและไร้พลัง ใช้ความสงสารเป็นแรงขับเคลื่อน
เมื่อดูหนังเรื่องนี้จบแนะนำให้หาหนังเรื่อง Taxi Driver มาดูต่อ เพราะหลายๆ ฉากใน Joker อ้างอิงมาจาก Taxi Driver อย่างชัดเจน ซึ่งผู้แสดงนำใน Taxi Driver ก็ไมใช่ใครที่ไหน แต่ก็คือ Robert De Niro ที่รับบทเป็น Murray Franklin Joker game พิธีกรรายการโชว์นั่นเอง อีหเรื่องที่อยากแนะนำให้ดูคือซีรีส์ Mindhunter ที่พาคุณไปสัมภาษณ์ฆาตกรต่อเนื่อง การดู Joker ก็เหมือนการไปสัมภาษณ์ฆาตกรคนหนึ่งในซีรีส์นี้เลย
สุดท้าย แอบขัดใจกับซับไตเติลภาษาไทยที่ไม่สามารถถ่ายทอดข้อความเด็ดในเรื่องออกมาเป็นภาษาไทยได้ “I hope my death will make more cents than my life” สำหรับประโยคนี้เล่นกับคำว่า Cents ที่เป็นสกุลเงิน มีความหมายแทนเงิน และคำว่า Sense ที่มีควาหมายว่าสมเหตุสมผล โดยสองคำนี้ออกเสียงคล้ายๆ กัน
เป็นมุกตลกสุดหดหู่ที่แผลงจากประโยค “ฉันหวังว่าความตายของฉันจะสมเหตุสมผลมากกว่าตอนมีชีวิต” เป็น “ฉันหวังว่าความตายของฉันจะสร้างเม็ดเงินให้มากกว่าตอนมีชีวิต”
ผลงานเรื่องราวจุดเริ่มต้นของตัวละคร “Joker” จากผู้กำกับฯ ทอดด์ ฟิลลิปส์ (จาก The Hangover) ที่จะพาไปรู้จักกับอาร์เธอร์ เฟลค ตัวตนก่อนจะมาเป็นโจ๊กเกอร์ ที่รับบทโดยวาคิน ฟีนิกซ์ เจ้าของนักแสดงผู้เข้าชิงรางวัล Oscar มาแล้วถึง 3 ครั้ง (“The Master,” “Walk the Line,” “Gladiator”) ถ้าคุ้นหน้าตากันหน่อยก็จาก Her ที่เขาเล่นกับคนรัก AI ที่เหมือนตัวตนสมมุติทั้งเรื่อง และมาในเรื่องนี้วาคิน ฟีนิกซ์ ก็ได้รับบทที่ท้าทายที่สุดในชีวิตการแสดงอีกครั้ง
ซึ่งโจ๊กเกอร์นอกจากจะเป็นบทที่มีความซับซ้อนมากแล้ว ยังเป็นเหมือนบทที่ต้องถูกนำไปเปรียบเทียบกับผลงานของฮีธ เลดเจอร์ ใน The Dark Knight JOKER SLOT ที่ถูกยกย่องว่าเป็น “โจ๊กเกอร์ ที่ดีที่สุดตลอดกาล” ซึ่งไม่ใช่แค่การที่เขาต้องมาจบชีวิตหลังถ่ายทำ แต่ถ้าใครได้ดูหนังเรื่องนี้ก็คงต้องยกตำแหน่งนี้ให้แบบไม่มีข้อสงสัยอยู่ดี ดังนั้นนี่จึงเป็นบทที่ท้าทายนักแสดงมากๆ ว่าจะเทียบชั้นหรือเหนือกว่าตำนานได้หรือไม่
อาร์เธอร์ เฟลค เป็นชายคนหนึ่งที่ต้องเผชิญหน้ากับความโหดร้ายทารุณและสังคมที่เต็มไปด้วยการเหยียดหยามในเมืองก็อตแธม ซึ่งเป็นยุคเริ่มที่สังคมเริ่มผุพังจากหลายๆ สิ่งที่ทับถมเข้ามาในเมือง ดังจะเห็นได้จากข่าวมีหนูยักษ์บุกเมืองจากขยะจำนวนมากที่จัดการไม่ได้ขึ้นมาตอนแรก หนูที่เป็นเหมือนตัวแทนของสิ่งสกปรกโสมมได้เติบโตขึ้นจนครองเมืองก็อตแธม ในขณะที่ชาวเมืองก็หวังให้มีการจัดการปัญหาจากการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น
ซึ่งนักธุรกิจมหาเศรษฐี “โทมัส เวย์น” คือหนึ่งในคนที่ลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ ใช่ครับ นี่เป็นโลกของแบทแมนในยุคที่พ่อของบรู๊ซ เวย์น ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งผู้กำกับพยายามหลีกเลี่ยงว่า Joker ภาคนี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องไปยังแบทแมน แต่จากที่ดูจะเรียกว่าเป็นแบบนั้นคงไม่ได้ เพราะนี่คือเรื่องราวที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของเมืองก็อตแธม ก่อนจะมีแบทแมนปรากฎออกมาได้อย่างแนบเนียน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีประวัติว่าโจ๊กเกอร์เป็นใคร มาจากไหน
ในหนังนี้พยายามฉีกตัวเองออกมาจากจักรวาล DC แต่ก็ยังแอบเชื่อมต่อกันได้อย่างเนียน แม้จะไม่ใช่แบบทางการ แต่หลังดูจบเชื่อว่าทุกคนที่เป็นแฟนแบทแมนก็คงเห็นด้วยว่า นี่เป็นการเขียนบทสร้างโจ๊กเกอร์ให้เป็นจุดกำเนิดก็อตแธมเมืองคนบาปกับแบทแมนไปพร้อมกัน อาร์เธอร์รับจ้างแต่งชุดตัวตลกรายวันตามงานต่างๆ เขามีความฝันอยากเป็นนักแสดงตลกเดี่ยวไมโครโฟน
ซึ่งก็คงเป็นไปได้ถ้าเขาไม่ได้มีปัญหาเรื่องโรคหัวเราะเองจากอาการควบคุมกล้ามเนื้อไม่ได้ อาการนี้แปลกประหลาดและนำพาปัญหาหลายอย่างมาสู่ชีวิตเขา JOKER หนังจะพาไปให้เห็นชีวิตของอาร์เธอร์ที่พยายามดูแลแม่ พยายามเป็นคนปกติที่ดีในสังคม แต่สังคมก็อตแธมในตอนนี้เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำของฐานะทางสังคม ยิ่งเขาพยายามเท่าไหร่ก็เหมือนถูกคนในสังคมกลั่นแกล้งให้เขาไม่สามารถมีชีวิตมีหน้าที่การงานที่ดีได้
สุดท้ายก็กลายเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่ระเบิดตูมขึ้นหลังบ่มเพาะเชื้อมานาน แต่นั่นทำให้เขาพบตัวตนใหม่ที่ไม่ต้องแคร์กับการเป็นคนดีตามปกติอีกต่อไป การกลายมาเป็นคนชั่วในคราบหน้ากากตัวตลก กลับได้รับการตอบสนองให้เขามีตัวตนมากกว่าอาร์เธอร์ เฟลคคนเดิมที่พยายามเป็นนักแสดงตลก แต่กลับกลายเป็นตัวตลกให้คนอื่นเขาขำแทน ซึ่งทำให้เขาเจ็บปวดอับอายกับการที่ผู้คนตอบสนองต่อสิ่งที่เขาเป็น
(อ่านรายละเอียดเพิ่มในสปอยล์ด้านล่างสุด) และนั่นเป็นชนวนระเบิดสุดท้ายที่ทำให้ฉายา Joker ปรากฎขึ้นมาในเมืองก็อตแธม และกลายเป็นชนวนที่ส่งแรงระเบิดมาถึงเรื่องราวจุดเริ่มต้นของบรู๊ซ เวย์น ก่อนจะมาเป็นแบทแมนในเวลาต่อมา เรื่องราวอีกส่วนของอาร์เธอร์จะทุ่มเทเวลาไปกับการดูแลแม่ที่ไม่ค่อยแข็งแรง แม่ของเขามีความเชื่อว่า โทมัส เวย์น เป็นคนดีและจะช่วยเหลือครอบครัวเขาได้
จึงเขียนจดหมายไปหาและรอการตอบรับความช่วยเหลือมาตลอด จนเขาได้มาล่วงรู้ความลับในเรื่องนี้ (อ่านในสปอยล์ด้านล่างสุดของรีวิว) จึงนำไปสู่ความพยายามให้มีตัวตนเกิดขึ้นมา ตรงนี้เป็นบทที่เสริมให้เรื่องราวของ โทมัส เวย์น กับ อาร์เธอร์ เฟลค JOKERGAME มีความเกี่ยวข้องกันมากขึ้น ซึ่งหนังจะไม่ได้เฉลยตรงไปตรงมาว่า สุดท้ายแล้วอะไรจริง อะไรเท็จกันแน่ เป็นความฉลาดของผู้เขียนบทที่เลือกเล่นนอกบทจากเรื่องราวเดิมๆ ทำให้บท Joker ในเวอร์ชั่นนี้
มีน้ำหนักที่มาที่ไปกลายเป็นศัตรูคู่แค้นตลอดกาลของแบทแมนได้อย่างสมจริง ซึ่งถ้าสร้างขึ้นมาจริงๆ ก็ลงตัวมากกับจุดกำเนิดของเรื่องราวใหม่ในโลกของแบทแมนแบบนี้ (แต่ผู้กำกับยืนยันว่าจะไม่ไปเกี่ยวข้องกับแบทแมทในจักรวาลอื่นๆ) นี่เป็นหนังที่เรียกว่าได้สมบูรณ์แบบกับการเล่าเรื่องราวที่มาของ “Joker” ซึ่งแฟน DC ต้องชอบแน่นอนกับการแต่งเติมจินตนาการนี้ขึ้นมาครั้งแรกในโลก แถมยังสร้างได้อย่างมาสเตอร์พีซในทุกๆ ด้านอีกด้วย
แต่ถ้าในมุมที่ไม่ใช่แฟน DC หนังเรื่องนี้อาจจะกลายเป็นหนังแนวอาชญากรรมที่มุ่งเน้นความรุนแรงและสมจริงมากเกินระดับปกติทั่วไป และก็ถูกมองว่าพยายามสร้างให้อาชญากรน่าเห็นใจ มีปมเกิดขึ้นจากสังคมที่กดขี่จนเขาไม่เหลือที่ยืน รวมถึงอาการทางจิตที่ซ้ำเติมเข้าไปอีก ซึ่งถ้ามองตามความจริงเรื่องราวของอาชญากรในคดีสะเทือนขวัญต่างๆ มักมีปมหลักๆ มาจากสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดขึ้น แต่กรณีของ Joker คือ
ทุกปมถูกนำมารวมกันและบดขยี้ใส่ตัวอาร์เธอร์ จนไม่ว่าใครก็ตามถ้าตกอยู่ในสภาพแบบเขาก็คงไม่พ้นกลายเป็นโจ๊กเกอร์สักวันจนได้ เรียกว่าหนังทำได้สมจริงยิ่งกว่าโลกจริงซะอีกกับที่มาอาชญากรตัวท็อปสุดในโลกของการ์ตูน DC ที่สะท้อนเรื่องราวในโลกจริงได้อย่างแนบเนียนไปพร้อมกัน นี่เป็นหนังดี มีคุณภาพ แต่ไม่ใช่หนังที่ดูสนุกสำหรับคนดูทั่วไป ถ้าไม่ใช่แฟน DC แบบจริงจัง หรือไม่ใช่คนดูหนังสายล่ารางวัล ก็หลีกเลี่ยงหนังเรื่องนี้ได้เลย
เพราะหนังรุนแรง กดดัน หดหู่ และไม่มีความบันเทิงในเรื่องราวแม้แต่น้อย หนังทำเอาจิตตกได้หลายช่วงกับอาชญากรรมที่โจ๊กเกอร์ก่อขึ้นมาอย่างต่อเนื่องกับคนใกล้ตัวไปจนถึงคดีสะเทือนขวัญตอนจบ รวมถึงความอึดอัดหม่นหมองจากการแสดงของวาคิน ฟีนิกซ์ ที่เล่นได้สุดขั้วในบทที่เป็นตำนานแบบนี้ ถ้าถามว่าดีกว่า ฮีธ เลดเจอร์ ไหมขอตอบว่าเป็นคนละช่วงเวลากัน
เรียกว่าในส่วนของวาคิน ฟีนิกซ์ คือจุดกำเนิดแบบดิบๆ ที่ขึ้นหิ้งในบทนี้ไปอีกคน ก่อนจะไปเป็นอาชญากรสมบูรณ์แบบฉบับ ฮีธ เลดเจอร์ ที่ร้ายทั้งสติปัญญาและความวิปลาศใน The Dark Knight ครับ
superslot,JOKER SLOT ONLINE,บาคาร่า,UFABET,SLOT2PLAY,bearbaccarat,slotreview,betufacasino,zlotxo,xhamsterthai,fourslot,termgameonline,ufa9988,ufabett,serviceufa
Last Update : 30 เมษายน 2021 (ข้อมูลล่าสุดปี 2021)
Written by: admin