สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด (Newcastle United)

“สโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด” สโมสรฟุตบอลแห่งหนึ่งที่เก่าแก่ของประเทศอังกฤษ ความเป็นมาของสโมสรแห่งนี้ เริ่มในปี 1881 เมื่อทีมคริกเกตสแตนลีย์ตั้งทีมฟุตบอลเพื่อลงแข่งขันในช่วงฤดูหนาว และชนะการแข่งขันฟุตบอลในเกมแรก

ภายหลัง 1 ปี ทีมได้เปลี่ยนชื่อเป็น “สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลอีสต์เอนด์” (Newcastle East End) ช่วงเวลานั้น ทีมคริกเกตอีกทีมหนึ่งในระแวกเดียวกัน ก่อตั้งสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลเวสต์เอนด์ (Newcastle West End)และในปี 1889 มีการจัดตั้งฟุตบอลลีกท้องถิ่น

ทีมฟุตบอลนิวคาสเซิลอีสต์เอนด์ (Newcastle East End) ผันตัวเองจากทีมสมัครเล่นมาเป็นระดับทีมฟุตบอลอาชีพในปีนั้นตรงข้ามกับทีมฟุตบอลฝั่งนิวคาสเซิลเวสต์เอนด์ (Newcastle West End) ที่ล้มเหลวในการเข้าสู่สถานะเป็นทีมฟุตบอลอาชีพ มาถึงต้นปี ค.ศ. 1892 ผู้บริหารของนิวคาสเซิลเวสต์เอนด์ (Newcastle West End) ได้ควบกิจการกับนิวคาสเซิลอีสต์เอนด์ (Newcastle East End) และตั้งชื่อใหม่ของทีมว่า“นิวคาสเซิลยูไนเต็ด” (Newcastle United)

สนามเหย้าที่ใช้ในการแข่งขัน

เซนต์เจมส์พาร์ก หรือชื่อ สปอตส์ ไดเรกต์ อารีนา เป็นสนามเหย้าของ สโมสรฟุตบอล นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ได้ชื่อว่าเป็นสนามเหย้าที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 8 ในอังกฤษ ตั้งอยู่ที่นิวคาสเซิล อะพอนไทน์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะอังกฤษ ความจุผู้เข้าชมได้ถึง 52,387 ที่นั่ง

ตราสโมสรและฉายา

เริ่มต้นตราสโมสรมีสัญลักษณ์เป็นรูปม้าน้ำ สื่อถึงความผูกพันระหว่างเมืองกับทะเล เพราะเป็นนิวคาสเซิลเป็นเมืองติดกับทะเล ส่วนโล่ลายทางขาว-ดำ คือสีประจำสโมสร ส่วนปราสาทข้างหลังเป็นป้อมปราการของกษัตริย์นอร์แมน ปราสาทแห่งใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาในชื่อของนิวคาสเซิล ใช้มาจนถึงปัจจุบัน สำหรับสิงโต สื่อถึงราชวงศ์บ่งบอกความเป็นประเทศอังกฤษ ส่วนธงบนยอดปราสาท คือธงของโบสถ์ St. George โบสถ์เก่าแก่ประจำเมือง ต่อมาเปลี่ยนเป็นนกแม็กพายส์ หรือนกสาลิกา สีดำ-ขาว และกลับมาใช้ม้าน้ำเหมือนเดิมเดิมและปรับแต่งให้ทันสมัยมากขึ้นในปัจจุบัน

ยุคเริ่มต้น

ในปี 1950 สโมสรนิวคาสเซิล สามารถคว้า แชมป์เอฟเอคัพ 3 สมัยในช่วงเวลา 5 ปี พร้อมกับทีมที่มีผู้เล่นชื่อดังหลายราย เช่น แจคกี มิลเบิร์น, บ็อบบี มิทเชลล์ และ สแตน เซมัวร์

ปี 1980 นิวคาสเซิล กลับเข้าสู่ช่วงตกต่ำ โดยตกชั้นอยู่ในดิวิชัน 2 เป็นเวลาหลายปี ก่อนที่ผู้จัดการทีมอาร์เธอร์ ค็อกซ์จะสร้างทีมขึ้นมาใหม่โดยมีเควิน คีแกน อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษเป็นแกนหลัก จนได้เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดได้อีกครั้ง

ปี 1997 คีแกนลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม แต่มี เคนนี ดัลกลิช มาแทน ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของปี 1997 – 1998 ดัลกลิชพานิวคาสเซิลเข้าไปเล่นฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แต่แพ้ อาร์เซนอล ในรอบชิงชนะเลิศถ้วยเอฟเอคัพไป เป็นผลให้ดัลกลิชถูกปลดออกจากตำแหน่งในช่วงต้นฤดูกาล 1998 – 1999

ยุคปี 2000

ช่วงปี 2000 นิวคาสเซิลตัดสินใจแต่งตั้งเซอร์ บ็อบบี ร็อบสัน อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ พวกเขาได้สร้างทีมขึ้นมาใหม่โดยมีนักเตะดาวรุ่ง เช่น ผคีรอน ดายเออร์, เคร็ก เบลลามี่ และโลรองต์ โรแบร์ จน ได้กลับเข้าไปเล่นในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และได้เข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของถ้วยเอฟเอคัพและลีกคัพ ในปี 2001 – 2002

ปี 2003 – 2004 นิวคาสเซิล ตกรอบจากการคัดเลือกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก จึงตกชั้นลงไปเล่นในถ้วยยูฟ่าคัพ แต่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศถ้วยยูฟ่าคัพ หลังจากนั้นทางสโมสรได้ทำการปลด เซอร์ บ็อบบี ร็อบสัน ออก พร้อมแต่งตั้งแกรม ซูเนส เป็นผู้จัดการทีม

ปี 2004 – 2005 แกรม ซูเนส ได้ไมเคิล โอเวน มาสู่ทีม แต่ทำทีมไม่นาน แกรม ซูเนส ก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งในปีถัดมา และมีเกล็น โรเดอร์ มารับตำแหน่งแทน

ปี 2006 – 2007 นิวคาสเซิลจบฤดูกาลในอันดับที่ 7 เกล็น โรเดอร์ ลาออกจากผู้จัดการทีม ทางสโมสรจึงได้แต่งตั้งแซม อัลลาร์ไดซ์ เป็นผู้จัดการทีม แต่ในเดือนมิถุนายน ปี 2007 บอร์ดบริหารสโมสรก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เฟรดดี้ เชฟเฟริด ผู้บริหารสโมสรขายสโมสรให้แก่ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของธุรกิจขายอุปกรณ์กีฬา

ช่วงปี 2008 – 2009 เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งประกาศขายสโมสร และทีมตกชั้นสู่ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป แต่ในปี 2009 ไมค์ แอชลีย์ ก็ประกาศยุติการขายสโมสร พร้อมแต่งตั้ง คริส ฮิวจ์ตัน เป็นผู้จัดการทีมอย่างเป็นทางการ

ช่วงปี 2009 – 2010 นิวคาสเซิล สามารถทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องจนสามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จและได้เลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีก

ช่วงปี 2015 – 2016 สโมสรแต่งตั้ง ราฟาเอล เบนิเตช มาคุมทีมแต่พลาดทำให้ทีมตกชั้นไปเล่นในเดอะแชมป์เปี้ยนชิพในฤดูกาลถัดไป ถือเป็นการตกชั้นครั้งที่สองในยุคของไมค์ แอชลีย์

ช่วงปี ค.ศ. 2016 – 2017 ราฟาเอล เบนิเตช เปลี่ยนแปลงทีมขนานใหญ่และสามารถคว้ารายการแชมป์เดอะแชมป์เปี้ยนชิพมาครองได้ ทำให้กลับมาสู่เวทีพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จอีกครั้ง